พล.ร.ต.สมเกียรติ เปิดตัวหนังสือ “ เก็บกู้ระเบิดในหัวใจ ให้ทุกคนมีที่ยืน คืนความสมดุลสู่สังคม”
ปัญหาไฟใต้ใกล้จะครบ 21 ปีเต็ม หากนับจากเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งมโหฬาร เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ตลอดมามีข้อเสนอดับไฟใต้จากฝ่ายต่างๆ มากมาย แต่ก็ยังไม่เคยสำเร็จเสียที ทั้งด้วยสาเหตุที่ข้อเสนออาจจะยังไม่ตรงกับปัญหามากนัก และด้วยสาเหตุที่ข้อเสนอไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ ทั้งๆ ที่เป็นข้อเสนอที่ดี
ล่าสุดวันนี้ 5 มกราคม 2568 มีการเปิดตัวหนังสืออีกเล่มของ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร อดีตเลขาธิการ ศอ.บต. และอดีตผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ
ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ผ่านงานดับไฟใต้ทั้ง “บู๊ และ “บุ๋น” มาอย่างโชกโชน – สมัยเป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน เคยปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบที่บุกโจมตีฐานของทหารเรือ คือ “ฐานยือลอ” ที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 ฝ่ายกลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิตในคราวเดียวกันถึง 16 ราย มากที่สุดจากการปะทะทุกครั้งที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือ นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำกลุ่มติดอาวุธคนสำคัญ – ขึ้นเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. ลุยงานพัฒนา และเยียวยา สร้างความเป็นธรรม ที่เรียกว่า “ปลดระเบิดในใจคน”
ทั้งหมดนี้กลั่นเป็นหนังสือชื่อ ชายแดนใต้ ภูมิหลังและทางออก พร้อมคำโปรยน่าสนใจ… เก็บระเบิดในหัวใจ ให้ทุกคนมีที่ยืน คืนความสมดุลสู่สังคมชายแดนใต้ แนวทางดับไฟใต้ตามข้อเสนอของ พลเรือตรี สมเกียรติ ต้องทำ 3 พันธกิจ คือ พันธกิจที่ 1 เก็บกู้ระเบิดในใจ เคลียร์ทางสู่การสร้างสันติสุข การคลี่คลายความย้อนแย้งทางประวัติศาตร์และการสูญเสียอำนาจทางการเมือง ปรับปรุงข้อมูลทางประวัติศาตร์ปัตตานี และการยอมรับการดำรงอยู่ของชุมชนดั้งเดิม พันธกิจที่ 2 ต้องทำให้คนมีที่ยืน
อย่างน้อย 2 กลุ่ม นำคนเหล่านี้กลับมาอยู่บ้านเกิดของตนเอง คือกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งตกเป็นผุ้ต้องหาคดีความมั่นคง โดยผู้เสียหายต้องยินยอมและให้อภัย กับอีกกลุ่ม คือ กลุ่มคนไทยพุทธและคนไทยเชื้อสายจีนที่ต้องทิ้งบ้านไปอาศัยที่อื่น เนื่องจากสูญเสียคนในครอบครัวและไม่มั่นใจในความปลอดภัย พันธกิจที่ 3 คือ คืนความสมดุลสู่สังคมชายแดนใต้ กระจายอำนาจทางการเมือง การปกครอง และการบริหาร อย่างแท้จริง
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา